วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559

About Thailand 4.0


ประเทศไทย 4.0 นั้นไม่ใช่ ‘Industry 4.0’ ที่มีต้นแบบตามประเทศเยอรมัน ซึ่งที่เยอรมันนั้นเขาเป็นการปฏิวัติธุรกิจที่เกี่ยวกับอัตสาหกรรมยุคที่ 1 เริ่มต้งเเต่การคิดค้นเคร่องจักรไอน้ำเเละก้าวนำไปสู่อุตสาหกรรมยุคที่ 2มีการพัฒนาไปเป็นไฟฟ้าเเละโทรเลข ยุคที่ 3 คือดิจิตอลเเละล่าสุดยุคที่ 4 คือยุค Internet of Things ( ก็คือการที่เครื่องจักรสื่อสารกับเครื่องจักร ) เเต่สำหรับที่บ้านเรานั้นไม่เหมือนกัน ประเทศไทยเรานั้นเริ่มจากยุคที่ 1 คือสัมคมเกษตร ในยุคที่การเกษตรกรรมรุ่งเรืองมีการส่งออกค้าข้าว ต่อมาเป็นยุคที่ 2 เป็นยุคอุตสาหกรรมเบา เเละ ยุคที่ 3 คืออุตสาหกรรมหนัก เเละตอนนี้เรากำลังพยายามขับเคลื่อนตัวเองให้เข้าสู่ยุคที่ 4 อุตสาหกรรมในโรงงานต้องการเครื่องมือเครื่องจักรมาสำหรับเพื่อพัฒนาสินค้าภายในองกรของตัวเอง

เริ่มจากโมเดลรหัส
ประเทศไทย 1.0 เน้นไปที่ภาคการเกษตร ขายวัตถุดิบ
ประเทศไทย 2.0 เน้นไปที่อุตสาหกรรมเบา ใช้แรงงานราคาถูก และวัตถุดิบน้อย เช่น อุตสาหกรรมทอผ้า อาหาร และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเทศไทย 3.0 เป็นช่วงเวลาที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน โดยเริ่มเน้นไปที่อุตสาหกรรมหนัก และส่งออก
ประเทศไทย4.0เป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจไปสู่ValueBasedEconomyหรือ“เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม”

นี้เป็นเรื่องของการพัฒนาบุคคลเเละองค์กรเพื่อให้ประเทศเราหลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง
ซึ่งแปลง่ายๆว่าเศรษฐกิจประเทศเราไม่ได้พัฒนาไปไหนมานานมากแล้วกว่า 50 ปี (สมัยก่อนเราเติบโตปีละ 7- 8% แต่หลังๆมาแค่ 2-3% ก็หืดขึ้นคอแล้ว) ความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูงขึ้นเรื่อยๆ คนรวยก็รวยต่อไป คนจนก็จนกันต่อไป และสุดท้ายปัญหาความไม่สมดุลของคนและธรรมชาติ
คนที่ให้สัมภาษณ์คือดอกเตอร์ สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพานิชย์ อธิบายถึงเหตุผลหลักๆที่ประเทศเรายังติดหล่มเศรษฐกิจตรงนี้มานานแสนนาน 1.รัฐบาลที่ไม่มั่นคง ไม่มีความต่อเนื่องในการทำงาน 2.บ้านเรามีความหลากหลายมากจนเกินไป เหมือนการพยายามจับปลาหลายตัวด้วยสองมือ เรามีทั้งการเกษตร อุตสาหกรรม และการบริการท่องเที่ยว แต่กลับไม่โฟกัสไปเรื่องใดเรื่องหนึ่งเหมือนประเทศที่มีน้อยๆอย่างสิงคโปร์ ประเทศไม่มีอะไรนอกจากทรัพยากรมนุษย์ เขาก็มุ่งไปทางนั้น เอาดีทีละอย่าง แต่เรากลับทำให้ความหลากกลายเป็นข้อจำกัดเพราะนโยบายที่ไม่ชัดเจน

1.การพัฒนาบุคคลด้านเกษตกรรม ให้ชาวนาเป็น ‘สมาร์ทฟาร์เมอร์’ ใช้เทคโนโลยีที่ดี มีการบริหารจัดการที่ดี จนกระทั่งรวยขึ้นได้ ให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจทำธุรกิจจากภาคการเกษตรมากขึ้น เครื่องจักรเครื่องมือก็มีการพัฒนาเเละนำเข้ามากขึ้น ชาวนามีความรู้ความสามารถมากขึ้น

2.กลุ่ม SME ให้การขอสินเชื่อง่ายขึ้น ให้ความรู้ทางเทคโนโลยี ให้พวกเขามี Innovation Driven Enterprise ออกหาตลาดใหม่ๆ สร้างแบรนด์ที่เข้มแข็ง ฯลฯ

3.กลุ่ม Service ให้มีความหลากหลาย สร้างนโยบายที่ชัดเจนเพื่อให้กลายเป็น High Value Service

4.กลุ่มแรงงานให้คิดพัฒนาตนเองให้เป็นHighSkilledLaborเพราะอนาคตหุ่นยนต์จะเข้ามาทดแทนแรงงานคนกันแล้ว

About Thailand 4.0

การเปลี่ยนผ่านประเทศไทยจากเวอร์ชั่น 3.0 เป็นเวอร์ชั่น 4.0
หรือจากประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยการผลิต "เชิงอุตสาหกรรมหนัก"
ไปสู่การขับเคลื่อนด้วย "เทคโนโลยีและนวัตกรรม"
เพื่อหนีกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ที่ไทยติดอยู่เป็นเวลานาน
คือ พิมพ์เขียวที่รัฐบาลกางขึ้นบนโต๊ะ
และวางเป้าหมายที่จะปรับโครงสร้างประเทศให้ก้าวสู่ยุค 4.0
ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้
หัวใจสำคัญของประเทศไทยในยุค 4.0
คือ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ “Value-Based Economy”
หรือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
เปลี่ยนการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม
เปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยอุตสาหกรรม
ไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
แบะเปลี่ยนจากการเน้นภาคการผลิตสินค้าภาคบริการมากขึ้น

เราสนับสนุนที่จะพัฒนาประเทศเราให้ธุรกิจอุตสาหกรรมพัฒนาเทียบเท่าประเทศอื่นได้ๆ โดยการนำเอาเครื่องจักรที่มีมาตรฐาน ประหยัดพลังงานเเละใช้งานง่ายปลอดภัยกับบุคลากรเเละสิ่งเเวดล้อมตอบโจทย์ผู้ประกอบการทุกด้านอย่าง เครื่องซีลสูญญากาศ หรือ เครื่องเเพ็คสูญญากาศ ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยกำลังการผลิตว่องไว

โทรสอบถาม : 089 070 2010 , 02 644 9001
Line ID : belt_ipadสอบถามข้อมูลทางเทคนิค : 02 644 9001 3
#เครื่องซีลสูญญากาศ
ติดตามเราได้ที่
Facebook = https://www.facebook.com/belterpacking/





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น